ดุเดือดเลือดพล่านเหลือเกินกับศึก ฟุตบอลโลก ปี 2022 นี้ หลายทีมที่เป็นตัวเก็งก็ผ่านเข้ารอบลึกมาได้อย่างงดงาม เช่นเดียวกับ สิงโตคำราม ที่ตอนนี้ตีตั๋วเข้ารอบ 8 ทีมไปแล้วจากการเอาชนะ เซเนกัลไปถึง 3-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ดูเหมือนในตอนแรกอังกฤษจะเครื่องติดช้า ยังไม่เข้าที่เข้าทางตอนเริ่มเกม จึงทำให้อาจจะโดนทางเซเนกัลบุกหนักอยู่บ่อยครั้ง แต่ดูเหมือนโชคจะยังเข้าข้างอังกฤษจากการโดนบุก แนวรับของสิงโตคำรามก็เล่นได้ดีสามารถต้านการทำประตูของอีกฝ่ายได้ ทำให้เกมนี้สกอร์จบไปโดยที่ไม่โดนพังสักประตูเดียว
เซเนกัลบุกหนักแต่ยิงไม่เข้าสักประตู
ประเด็นนี้ถือเป็นจุดสำคัญของศึกระหว่างอังกฤษ กับ เซเนกัลเลยก็ว่าได้ เพราะ ตอนแรกฝั่งที่รีบบุกรีบทำประตูตั้งแต่ยังไม่ครึ่งแรกก็คือเซเนกัล แต่ดูเหมือนว่าต่อให้พวกเขาจะบุกเข้าใส่สิงโตคำรามเท่าไหร่ ลูกที่ยิงออกมาก็ยังไม่คมพอที่จะทำประตูให้กับทีมของตนได้ อย่างตอนที่เซเนกัลมีโอกาสยิงจ่อเขตประตูกลับไม่เข้า หลังจากนั้นมาพวกเขาก็ขยันยิงและมีโอกาสยิงถึง 10 ครั้ง สรุปลูกไม่คม ยิงไม่เข้าและไม่เฉียดเลย ทำให้ครึ่งหลังที่ทีมอังกฤษเครื่องติดแล้ว ทำประตูในเกมนี้ไปรวมกว่า 3 ประตู
สุดยอดแดนกลางของอังกฤษทำเกมได้ดี
ในตอนแรกพอ แกเรธ เซาต์เกธ โค้ชใหญ่ทีมอังกฤษได้ออกปากในลองเล่นแบบเดิม ที่ไปถล่มในศึกชนกับเวลลส์แล้วคว้าชัยมา 3 ประตู จากการที่มีแดนกลางแกร่งถึง 3 คน อย่าง ดีแคลน ไรซ์ , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน , จู๊ด เบลลิงแฮม ที่ต่างก็มีฝีมือและเอกลักษณ์การเล่นของตัวเองโดดเด่น เกมนี้นายใหญ่ก็ให้เล่นแบบเดิม สรุปคือมันเวิร์คในเกมนี้ด้วย ทั้งสามคนทำหน้าที่ตัวเองอย่างเต็มที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ทีมเอาชนะและผ่านเข้ารอบต่อไปได้
ตักดเกรดแข้งนักเตะทีมอังกฤษ
ลุค ชอว์ (7/10) , ไคล์ วอล์คเกอร์ (7/10) , จอห์น สโตนส์ (7/10) , แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (7/10) , จาร์แดน พิคฟอร์ด (7/10) , แฮร์รี่ เคน (8/10) , บูกาโย ซาก้า (8/10) , ฟิล โฟเด้น (8/10) , จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (8/10) , จู๊ด เบลลิงแฮม (8/10) , ดีแคลน ไรซ์ (8/10)