นี่เป็นการมาเย้ยหรือความชอบส่วนตัวกันแน่นะ ? สำหรับแข้งตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ของทีมแมนเชสเตอร์ซิตี้อย่าง เควิน เดิน บรอยน์ เมื่อแข่งขันเสร็จเขารีบวิ่งไปหาคริสเตียโน่ โรนัลโด้ที่ม้านั่งสำรองแล้วขอเสื้อตัวที่เขาใส่ หนุ่มโรนัลโด้ก็ถอดเสื้อให้ไปแต่โดยดีโดยเขาให้เหตุผลที่ว่า เขาก็ไม่อยากเก็บเสื้อที่แมทซ์นี้แพ้ไว้เหมือนกัน มันทำให้เขารู้สึกไม่ดีสักเท่าไหร่ นอกจากนี้มันยิ่งย้ำให้เขาคิดว่าตัวเองไม่แกร่งพอทำให้ต้องนั่งที่สำรองตลอดทั้งเกม
ผู้คนต่างมองว่าแข่งเสร็จแล้วไปเอาเสื้อคู่แข่งมาเลย เป็นการเย้ยหยั่นเกินไปหรือไม่ แต่อีกมุมนึงก็มองว่า การให้สัมภาษณ์ของเดอะบรอย์เมื่อก่อนในประเด็นที่ว่า ถ้าหากเลือกได้ต้องการเล่นร่วมทีมกับเมสซี ดาวยิงอาร์เจนติน่า และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เขาจะเลือกร่วมทีมกับใคร ? เดอบรอยน์ตอบว่าเขาคงจะร่วมทีมกับโรนัลโด้เพราะโรนัลโด้เป็นกองหน้าที่เก่ง และเขาให้ความเคารพเสมอมา ดังนั้นมันจึงต้องมาในประเด็นนี้ว่าน่าจะเป็นความชื่นชอบส่วนตัวจึงวิ่งไปขอเสื้อ ไม่ใช่การเย้ยที่แมนฯยูแพ้แต่อย่างใด
ย้อนรอย ดาวยิงแมนฯยูนั่งที่นั่งสำรองตลอดทั้งเกม ไม่มีโอกาสฉายแววในศึก แมนฯยู พบ แมนซิตี้
เป็นเรื่องที่แทงใจสำหรับแฟนคลับดาวยิงอย่างคริสเตียโน่โรนัลโด้มาก ที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสในลงสนามตลอด 90 นาที หรือตลอดการแข่งระหว่างแมนฯยูพบแมนซิตี้ โค้ชทีมให้สตาร์ดาวรุ่งนั่งที่นั่งสำรองตลอดเกม ไม่มีโอกาสได้โชว์ฝีมือ แต่ในมุมมองของโค้ชเทน ฮาก กล่าวว่า “ที่ผมไม่ให้เขาลงเพราะผมให้เกียรติโรนัลโด้มาก ถ้าหากลงไปแข่งเราก็รู้กันอยู่แล้วว่ายังไงก็แพ้แมนซิตี้ที่มีหอกสุดแกร่งอย่างฮาลันดด์จากทีมแมนซิตี้อยู่ดี ถ้าหากผมเลือกให้เขาลงสนาม เส้นทางนักฟุตบอลของเขาอาจจะกลายเป็นคนหมดความมั่นใจไปเลยก็ได้”
แต่ก็เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันหนาหูในกรณีที่ เทน ฮาก ไม่นำโรนัลโด้ลงสนามแม้แต่วินาทีเดียว พงกเขาบอกว่านั่นมะนหยามกันชัดๆ บอกว่าให้เกียรติแต่ความจริงแล้วไม่ให้เกียรติอะไรเลย ถ้าหากหวังดีกับเขาจริงต้องยอมให้เขา เพราะเขามีสปิริตนักสู้เต็มเปี่ยม ต่อให้สู้ไปแล้วแพ้ก็คงจะดีกว่านั่งดูทีมตัวเองโดนถล่มยับแบบนี้ หลายกลองก็ต่างจับภาพสตาร์คนนี้ไว้ได้และทำให้รู้เลยว่าเขาเซ็งแค่ไหนที่ไม่ได้ลงเล่นในแมทซ์นี้